วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

บทที่ 4 ชนิดของประโยค

4.1 ประโยคปฎิเสธ : inte (ไม่)

ในภาษาไทยวางคำว่า "ไม่" ไว้หน้าคำกริยาในประโยคปฎิเสธ แต่ในภาษาสวีเดนวาง คำว่า inte (ไม่) หลังคำกริยาในประโยคปฎิเสธ

ข้อสังเกต (จากโครงสร้างประโยคในบทที่ 3 ) จะลำดับประโยคบอกเล่า ดังนี้

ประธาน หรือ ผู้แสดง (subjekt) + กริยา (verb) + กรรม หรือ ผู้ถูกกระทำ (objekt)


  • Jag dricker kaffe. ฉันดื่มกาแฟ
  • Sten cyklar. เสตียนกำลังขี่จักรยาน
  • Britta äter frukost. บริตต่ะ กำลังทานอาหารเช้า
  • Det snöar. หิมะตก

แต่ เมื่อใช้ร่วมกับประโยคปฎิเสธ : inte (ไม่) จะได้โครงสร้างดังนี้

ประธาน หรือ ผู้แสดง (subjekt) + กริยา (verb) + inte + กรรม หรือ ผู้ถูกกระทำ (objekt)



  • Jag dricker inte kaffe . ฉันไม่ดื่มกาแฟ
  • Sten cyklar inte. เสตียนไม่ขี่จักรยาน
  • Britta äter inte frukost. บริตต่ะ ไม่ทานอาหารเช้า
  • Det snöar inte. หิมะไม่ตก

4.2 ประโยคคำถามที่ตอบรับด้วยคำว่า Ja (ใช่) / Nej (ไม่ใช่)

ในหัวข้อนี้ ค่อนข้างสังเกตได้ง่าย เพียงแต่ท่านนำ คำกริยามาวางไว้หน้าสุดของประโยค แล้วตามหลังคำกริยาด้วยประธาน ท่านก็จะได้ประโยคคำถามที่ตอบรับด้วยคำว่า Ja (ใช่) / Nej (ไม่ใช่)

ตัวอย่าง

กริยา (verb) + ประธาน หรือ ผู้แสดง (subjekt) + กรรม หรือ ผู้ถูกกระทำ (objekt)

Arbetar Elsa? เอ็ลซ่ะกำลังทำงานหรือ?

Kör hon buss? หล่อนขับรถเมย์หรือ?

Gillar du musik? เธอชอบเพลงหรือ?

Ser du Per? เธอเห็นแพร์หรือ?

**ประโยคคำถามที่ตอบรับด้วยคำว่า Ja (ใช่) / Nej (ไม่ใช่) มีเพิ่มเติมในข้อ 4.7 ประโยคตอบรับแบบสั้น

4.3 ประโยคคำถามที่ใช้คำแสดงคำถาม

ลักษณะของประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วยคำแสดงคำถาม ห้ามท่านตอบรับด้วยคำว่าประโยคคำถามที่ตอบรับด้วยคำว่า Ja (ใช่) / Nej (ไม่ใช่)

จากตัวอย่างด้านล่างนี้ ขอให้ท่านจำโครงสร้างของประโยคไว้ด้วย

คำแสดงคำถาม(frågeord) + กริยา (verb) + ประธาน (subjekt) + กรรม (objekt)

ตัวอย่าง

ประโยคแสดงคำถามที่ใช้คำแสดงคำตอบ + คำตอบ

Vad gör Sten? สเตียนกำลังทำอะไร? + Han äter. เขากำลังทาน

Vem äter? ใครกำลังทาน? + Sten. สเตียน

Var äter han? เขาทานที่ไหน? + I köket. ในครัว

När äter han? เขาท่านเมื่อไหร่? + På morgonen. ตอนเช้า

ในบางกรณี ส่วนของประธานจะหายไป ทั้งนี้เป็นเพราะคำแสดงความถามมีความหมายและทำหน้าที่เป็นประธานในขณะเดียวกัน

คำแสดงคำถาม(frågeord) + กริยา (verb) + กรรม (objekt)

Vem bakar bröd? ใครกำลังทำขนมปัง?

Vad hände? อะไรได้เกิดขึ้น?

**คำว่า Vem และคำว่า Vad จะไม่เปลี่ยนรูปไม่ว่าทั้ง 2 คำนี้จะทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมก็ตาม

4.4 คำแสดงคำถาม (frågeord)

Vem (ใคร) ใช้เมื่อท่านต้องการถามคำถามถึงบุคคล คำนี้สามารถใช้เป็นได้ทั้งประธาน และกรรมของประโยค

  • Vem står därborta? ใครยืนอยู่ที่โน้น?
  • Vem träffade du i går? เธอพบใครเมื่อวันวานนี้?

Vems (ของใคร) ใช้เมื่อท่านต้องการถามหาเจ้าของ ซึ่งครอบครองสิ่งใดสิ่งหนึ่งอยู่

  • Vems cykel lånade du? เธอขอยืมจักรยานของใครมา?

**คำว่า Vilka ใช้เป็นพหูพจน์ของ Vem

  • Vilka kommer i kväll? ใครบ้างที่จะมาเย็นนี้?

Vad (อะไร) ใช้เมื่อท่านต้องการถามถึงสิ่งของต่างๆ คำนี้ไม่มีรูปพหูพจน์

  • Vad irriterar dig så? อะไรทำให้เธอเกิดความระคายเคืองเช่นนี้?
  • Vad köpte olle? อุลเล่ะซื้ออะไรมา?
  • Vad så han? เขา(ผู้ชาย) พุดว่าอะไร?

คำแสดงคำถาม (frågeord) Var (ที่ไหน),Vart (ที่ไหน),Varifrån (จากที่ไหน)ใช้เมื่อต้องการถามเกี่ยวกับ สถานที่

Var (ที่ไหน) ใช้เมื่อประธานไม่ทำกริยาที่แสดงการเคลื่อนที่ (ประธานไม่เคลื่อนไหว)

  • Var bor du? เธออาศัยอยู่ที่ไหน?
  • Var är tvålen? สบู่อยู่ที่ไหน?

Vart (ที่ไหน) ใช้เมื่อประโนทำกริยาที่แสดงอาการเคลื่อนไหว (ประธานเคลื่อนไหวจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง)

  • Vart reste ni på semestern? พวกเธอเดินทางไปไหนมาในช่วงวันหยุด?
  • Vart tog han vägen? เขา(ผู้ชาย)ไปที่ไหนมา?

Varifrån (จากที่ไหน)

  • Varifrån kommaer du? เธอมาจากที่ไหน?

คำแสดงคำถาม(frågeord) När(เมื่อไร่) , Hurdags(เมื่อไร,เวลาเท่าไร) ใช้เมื่อต้องการถามเกี่ยวกับ เวลา

När (เมื่อไร่) ใช้ถามเมื่อท่านต้องการทราบเกี่ยวกับเวลา ท่านอาจถามตอบคำถามที่ขึ้นต้นด้วย När เป็นชื่อ วัน วันที่ สัปปดาห์ เดือน ปี หรือตัวเลขบอกเวลา เป็นต้น

  • När tvättde du fönstret? เธอเช็ดหน้าต่างเมื่อไหร่?
  • När dog Napoleon? จักรพรรดินโปเลียนสิ้นพระชนน์เมื่อไร?

Hurdags (เมื่อไร, เวลาเท่าไร) มีความหมายเช่นเดียวกับ När แต่ใช้ถามเมื่อท่านต้องการทราบเวลาที่เจาะจง คำที่ต้องตอบเฉพาะเวลาที่เป็นตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกาเท่านั้น

  • När vaknade du i morse? เมื่อเช้านี้เธอตื่นนอนเมื่อไหร่?

- Klockan sju. (7.00 น)

  • Hurdags vaknade du i morse? เมื่อเช้านี้เธอตื่นนอนเมื่อไหร่?

- Klockan sju. (7.00 น)

Varför (ทำไม) ใช้คำถามเมื่อต้องการทราบเหตุผล ,สาเหตุ หรือ จุดประสงค์

  • Varför ljog du? เธอโกหกทำไม?
  • Varför gråter Sten? สเตียนร้องให้ทำไม?

Hur (อย่างไร) ใช้ถามเมื่อท่านต้องการทราบเกี่ยวกับลักษณะอาการหรือวิธีการที่จะกระทำบางสิ่งบางอย่าง

  • Hur kom du till Sverige? เธอมาประเทศสวีเดนได้อย่างไร?
  • Hur gör man ost? คนเราทำเนยแข็งได้อย่างไร?

คำแสดงคำนามที่ขึ้นต้นด้วย Hur ร่วมกับคำอื่นๆอีกหลายคำ ซึ่งเมื่อนำมาใช้ความกันแล้ว จะมีความหมายและลักษณะเฉพาะแตกต่างกันออกไป

Hur mycket (มากเท่าไร, เท่าไร) ใช้กับคำนามที่นับไม่ได้

  • Hur mycket kostar potatisen? มันฝรั่งราคาเท่าไร?
  • Hur mycket är klockan? เวลาเท่าไร?

**ท่านสามารถใช้คำนาม Vad แทนคำว่า Hur mycket ได้ในเรื่องของการถามราคาและกาลเวลา เช่น

  • Vad kostar potatisen? มันฝรั่งราคาเท่าไร?
  • Vad är klockan? เวลาเท่าไร?

อีกทั้ง ในกรณีที่ Hur mycket มีคำนามตามหลัง ห้ามใช้ Vad แทน Hur mycket เช่น

  • Hur mycket öl drack han? เขา(ผู้ชาย)ดื่มเบียร์ไปมากเท่าไร?

Hur många (มากเท่าไร, เท่าไร) ใช้กับคำนามที่นับได้

  • Hur många barn har ni? พวกคุณมีบุตรกี่คนครับ?
  • Hur många kommer på festen? มีแขกกี่คนที่มาในงานเลี้ยงครับ?

Hur långt (ไกลแค่ไหน, ไกลเท่าไร)

  • Hur långt är det till skolan? มันไกลแค่ไหนที่จะเดินทางไปโรงเรียน?

Hur länge (ยาวเท่าไร, นานเท่าไร)

  • Hur länge var du i England? นานเท่าไรที่คุณเคยอยู่ในประเทศอังกฤษ?

Hur ofta (บ่อยแค่ไหน, ถี่แค่ไหน)

  • Hur ofta går du på bio? คุณไปดูภาพยนต์บ่อยแค่ไหน?

บทที่ 3 ประธาน กริยา กรรม

การสร้างประโยคบอกเล่าในภาษาสวีเดน เราสามารถสร้างได้ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ประธาน หรือ ผู้แสดง (subjekt) + กริยา (verb) + กรรม หรือ ผู้ถึกกระทำ (objekt)
Jägaren dödade lejonet. (นายพรานได้ฆ่าสิงโต)
Lejonet dödade jägaren (สิงโตได้ฆ่านายพราน)
Eva skriver ett brev. (เอียว่ะ กำลังเขียนจดหมาย)

บางกรณีการสร้างประโยคก็อาจไม่มีกรรมมารองรับ เช่น
ประธาน หรือ ผู้แสดง (subjekt) + กริยา (verb)
Sten väntar. (เสตียนกำลังรอ)
Olle arbetar. (อุลเล่ะกำลังทำงาน)

ข้อบังคับเรื่องประธาน และ กริยา หรือเรียกอีกอย่างว่า " ประธานตามหลักการ (formellt subjekt) "

ตัวอย่าง

  • regnar (ฝนกำลังตก)
  • snöar (หิมะกำลังตก)
แต่ภาษาสวีเดนถูกบังคับว่าต้องมีส่วนของประธานและส่วนของกริยา จึงต้องใช้ det(มัน) + คำกริยา

  • Det regnar (ฝนกำลังตก)
  • Det snöar (หิมะกำลังตก)
  • Det är kallt ute. (ข้างนอกอากาศหนาวเย็น)
  • Det är varmt inne. (ข้างนอกอากาศอุ่น)

ในความเป็นจริงแล้วคำว่า det ไม่ได้แปลว่า ฝน ,หิมะ หรือ อากาศ เพียงแต่คำนี้ถูกวางไว้ในส่วนของประธานเพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ ลักษณะของประธานแบบนี้เราจึงได้เรียกว่า ประธานตามหลักการ (formellt subjekt)

นอกจากนี้ คำกริยาบางคำในภาษาสวีเดนบางครั้ง จะไม่ถูกแปลความหมาย

เช่น คำว่า är (เป็น , อยู่ , คือ)

  • Per är hungrig. (แพร์หิว)
  • Det är kallt ute. (ข้างนอกอากาศหนาวเย็น)
  • Det är varmt inne. (ข้างนอกอากาศอุ่น)

ขอให้ท่านจำไว้เสมอว่า ประโยคและข้อความที่มีลักษณะบอกเล่าในภาษาสวีเดน ต้องมีส่วนของ ประธานและส่วนของ กริยา เสมอ

ประธาน หรือ ผู้แสดง (subjekt) + กริยา (verb) + กรรม หรือ ผู้ถึกกระทำ (objekt)

Jag kommer. (ฉันกำลังมา)

Det renar. (ฝนกำลังตก)

Vi spelar tennis. (พวกเรากำลังเล่นเทนนิส)

Karin läser tidningen. (คอรินกำลังอ่านหนังสือพิมพ์)

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

บทที่ 2 ชนิดของคำ


2.1 คำกริยา(verb) และการเปลี่ยนรูปของคำกริยา
คำกริยา หมายถึง คำที่แสดงถึงกริยาอาการ การกระทำต่างๆ เช่น นั่ง เดิน เล่น ทาน ฯลฯ ในภาษาสวีเดนจะเป็นรูปไปตามกาลเวลา(tempus) เช่น

Olle arbetar i dag. อุลเล่ะ(กำลัง)ทำงานวันนี้
Olle arbetade i går. อุลเละทำงานเมื่อวานนี้

Olle dansar nu. อุลเละ(กำลัง)เต้นรำตอนนี้
Olle dansade för en timme sen. อุลเละเต้นรำเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา


ข้อสังเกตุ

เหตุการณ์ในอดีต : ตัด r ทิ้ง แล้วเติม de เข้าแทนที่

ปัจจุบัน การเปลี่ยนรูป กลายเป็นอดีต
arbetar ตัด r ทิ้ง = arbeta + de = arbetade

นอกจากนี้ ยังมีคำกริยาที่ลงท้ายด้วย er ซึ่งเรียนกว่า "คำกริยากลุ่ม er" คำกริยากลุ่มนี้จะเปลี่ยนรูป ดังนี้
Olle läser. อุลเล่ะอ่าน(อุลเล่ะกำลังอ่าน)
Olle läste. อุลเล่ะได้อ่านไปแล้ว
Olle skriver. อุลเล่ะเขียน(อุลเล่ะกำลังเขียน)
Olle skrev. อุลเล่ะได้เขียนไปแล้ว



2.2 คำนาม(substantiv) หมายถึง คำที่ใช้เรียกชื่อ

  • คน (ผู้หญิง kvinna, เด็กผู้ชาย pojke)
  • สัตว์ (สุนัข hund , ม้า häst)
  • สิ่งของ (มีด knive , จักรยาน cykel)
  • วัตถุ (น้ำ vatten , เหล็ก järn)
  • ความคิดที่เป็นนามธรรม (ความสวยงาม skönhet , พละกำลัง styrka)

คำนามในภาษาสวีเดนมีหลายรูปแบบ รายละเอียดเรื่องคำนามได้อธิบายไว้ในบทอื่นๆอีก

2.3 จำนวนนับของคำนาม

เรื่องการนับจำนวนของคำนามคือ แยกเป็น เอกพจน์ (sigular) และ พหูพจน์ (plural) แต่ภาษาสวีเดนแตกต่างไปจากภาษาไทยเรื่องการเปลี่ยนรูปคำนามมาจาก เอกพจน์ เป็น พหูพจน์ ดังต่อไปนี้

เอกพจน์ (sigular) เปลี่ยนรูป พหูพจน์ (plural)

stol (เก้าอี้) stol + ar stolar (เก้าอี้หลายตัว)

bank (ธนาคาร) bank + er banker (ธนาคารหลายแห่ง)

การเปลี่ยนรูปคำนามในภาษาสวีเดนยังมีการเปลี่ยนเป็นแบบอื่นได้อีก ท่านจะเข้าใจได้มากขึ้นเมื่ออ่านในบทต่อๆไป

2.4 คำนำหน้าคำนาม (obestämd artikel) และ คำปิดท้ายคำนาม (bestämd artikel)

คำนำหน้าคำนาม (obestämd artikel) หมายถึง คำที่มี en หรือ ett วางอยู่หน้าคำนามนั้น เช่น

en häst ม้า

en katt แมว

คำปิดท้ายคำนาม (bestämd artikel) หมายถึง คำที่มี -en หรือ -et วางอยู่ที่ส่วนท้ายของคำนามนั้น เช่น

hästen ม้า

katten แมว

ตัวอย่าง

Sten köper ett äpple och en banan. สเตียนซื้อแอ้ปเปิ้ลและกล้วย

Han äter äpplet men inte bananen. เขาทานแอ้ปเปิ้ลแต่ยังไม่ทานกล้วย

Lägenheten har reparerats av värden. อพาร์ตเม้นต์ถูกซ่อมแซมโดยผู้ให้เช่า

2.5 คำนามในกลุ่ม en และคำนามในกลุ่ม ett

คำนามในภาษาสวีเดนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม en และ กลุ่ม ett สังเกตกลุ่มคำเหล่านี้ ดังนี้

  • คำนามในกลุ่ม en

คำนำหน้าคำนาม - คำปิดท้ายคำนาม

en stol - stolen (เก้าอี้)

en skola - skolan (โรงเรียน)

en gatan - gatan (ถนน)

  • คำนามในกลุ่ม ett

คำนำหน้าคำนาม - คำปิดท้ายคำนาม

ett bord - bordet (โต๊ะ)

ett kök - köket (ห้องครัว)

ett äpple - äpplet (แอ้ปเปิ้ล)

2.6 บุรุษสรรพนาม หรือ คำสรรพนาม (personliga pronomen)

หมายถึง คำที่ใช้เรียกแทนชื่อจริงของผู้พูด, เรียกแทนชื่อจริงของผู้ฟัง และเรียกแทนชื่อจริงของบุคคล สัตว์ หรือสิ่งของที่เราเอ่ยถึง เช่น ผม ฉัน คุณ เขา มัน ฯลฯ เป็นต้น

บุรุษสรรพนาม หรือ คำสรรพนาม (personliga pronomen) แบ่งเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่ม 1, เอกพจน์ (sigular)

  • jag ฉัน , ผม
  • du คุณ, ท่าน, เธอ
  • han เขา(ผู้ชาย) ใช้แทนคำสรรพนามเพศชาย เท่านั้น
  • hon เขา(ผู้หญิง),หล่อน ใช้แทนคำสรรพนามเพศหญิง เท่านั้น
  • den มัน (ใช้แทนคำนามในกลุ่ม en) ใช้เรียกชื่อ สัตว์ และสิ่งของ
  • det มัน (ใช้แทนคำนามในกลุ่ม ett) ใช้เรียกชื่อ สัตว์ และสิ่งของ

กลุ่ม 2, พหูพจน์ (plural)

  • vi พวกเรา, พวกฉัน
  • ni พวกคุณ, พวกท่าน, พวกเธอ (บางครั้งแปลว่า"ท่าน,คุณ" ซึ่งใช้ในความหมายที่เป็นเอกพจน์)
  • de พวกเขา, พวกมัน (เขียน "de"อ่านออกเสียงว่า "dom" ซึ่งความหมายเดียวกัน) ไม่เป็นทางการ

ตัวอย่าง

Jag köpte ett äpple. ฉันได้ซื้อแอ้ปเปิ้ลมาผลหนึ่ง

Det kostade två kronor. มันราคา 2 โครเน่อร์

Vi har en katt. พวกเรามีแมวตัวหนึ่ง

Den heter Misse. มันชื่อ มิสเซ่ะ

De arbetar. พวกเขาทำงาน

Han är där. เขา(ผู้ชาย)ทำงาน

2.7 คำคุณศัพท์ (adjektiv)

หมายถึง คำที่บอกเกี่ยวกับลักษณะคุณภาพ หรือคุณสมบัติของคำนามหรือสรรพนามนั้นว่าเป็นอย่างไร เช่น

  • stor ใหญ่
  • ung หนุ่ม
  • dyr แพง
  • liten เล็ก
  • gammal แก่
  • billig ถูก

ตัวอย่าง

Jag har en gammal bil. ฉันมีรถยนต์เก่าคันหนึ่ง

Klockan är stor. นาฬิกาเรือนใหญ่

2.8 คำกริยาวิเศษณ์ (adverb)

มีความหมายคล้ายคุณศัพท์ ทำหน้าที่ขยายคำกริยา และ ขยายคำคุณศัพท์

คำกริยาวิเศษณ์ที่ขยายคำกริยา

คำคุณศัพท์ เติม+t คำกริยาวิเศษณ์

långsam (ช้า ) +t långsamt ( อย่างช้าๆ )

snabb (รวดเร็ว) +t snabbt ( อย่างรวดเร็ว )

ตัวอย่าง

Lena stängde dörren snabbt. เลียน่ะได้ปิดประตูอย่างรวดเร็ว
Per läser tidningen långsamt. แพร์อ่านหนังสือพิมพ์อย่างช้าๆ

คำกริยาวิเศษณ์ที่ขยายคำคุณศัพท์ เช่น mycket (มาก) และ ganska (ค่อนข้าง, ค่อนข้างจะ)

ตัวอย่าง

Lena har en mycket snabb bil. เลียน่ะมีรถยนต์ที่วิ่งได้เร็วมาก

Per är ganska långsam. แพร์ค่อนข้างจะช้า

2.9 คำบุรพบท (prepisition)

เป็นคำสั้นๆ จะวางอยู่หน้าคำนาม ที่เป็น สถานที่ และ คำนามที่บอกเกี่ยวกับ เวลา

  • i (ใน) ใช้กับ land (ประเทศ) , stad (เมือง) , ort (ตำบล) , kontinent (ทวีป )

เช่น Jag bor i Göteborg. ฉันอาศัยอยู่ในเยิททะบอย

Göteborg ligger i Sverige. เยิททะบอยอยู่ในสวีเดน

พูดถึงสถานที่ i จะใช้กับ skolan (โรงเรียน) , affären (ร้านค้า) , kyrkan (โบสท์)

เช่น Jag arbetar i skolan. ฉันทำงานในโรงเรียน

*******************************************

  • (บน) ใช้กับ gata (ถนน , ซอย) , väg (ถนนใหญ่) , ö (เกาะ)

เช่น Jag bor på Strandvägen. ฉันอาศัยอยู่บนเขตถนนสตอร์ท

Han bor på Öland. ฉันอาศัยอยู่บนเกาะเออร์แลนด์

พูดถึงสถานที่ จะใช้กับ bibliotek (ห้องสมุด) , sjukhus (โรงพยาบาล) , posten (ไปรษณีย์) , banken (ธนาคาร) , ICA (มินิมาร์ทขนาดใหญ่ ชื่อ อีก้า) , Volvo (บริษัท วอลโว่) , disco (ดิสโก้เทค) , bio(โรงหนัง) , teater(โรงภาพยนต์) , opera (โอเปร่า)

เช่น Jag går på bio. ฉันไปที่โรงหนัง


*******************************************

  • hos (กับ , ที่ ,โดย) เช่น

Karin är hos en kompis. คอรีนอยู่กับเพื่อนหนึ่งคน

Anna är hemma hos Lisa och Lasse. แอนนาอยู่บ้านกับลิซ่าและลอสเซีย

*******************************************

  • till (ถึง, จนถึง, ช่วงที่, ในช่วง) เช่น

Jag cyklar till affären. ฉันขี่จักรยานไปที่ร้านค้า

Vi ska åka till Kiruna. เราไป(เดินทางโดยรถ)ที่ คีรูน่า

Jag äter Thai mat till lunch. ฉันทานอาหารไทยในช่วงเที่ยง

*******************************************

2.10 การอ่านตัวเลข จะแยกเป็น 2 แบบ คือ

1. การอ่านตัวเลขด้วยการนับจำนวน (grundtal) เช่น

  • ศูนย์ 0 - noll
    หนึ่ง 1 - en, ett
    สอง 2 - två
    สาม 3 - tre
    สี่ 4 - fyra
    ห้า 5 - fem
    หก 6 - sex
    เจ็ด 7 - sju
    แปด 8 - åtta
    เก้า 9 - nio
    สิบ 10 - tio
    เป็นต้น

2. การอ่านตัวเลขด้วยการนับลำดับที่ (ordningstal) เช่น

  • ลำดับที่ , ตำแหน่งที่ , วันที่ 1 - första
    ลำดับที่ , ตำแหน่งที่ , วันที่ 2 - andra
    ลำดับที่ , ตำแหน่งที่ , วันที่ 3 - tredje
    ลำดับที่ , ตำแหน่งที่ , วันที่ 4 - fjärde
    ลำดับที่ , ตำแหน่งที่ , วันที่ 5 - femte
    ลำดับที่ , ตำแหน่งที่ , วันที่ 6 - sjätte
    ลำดับที่ , ตำแหน่งที่ , วันที่ 7 - sjunde
    ลำดับที่ , ตำแหน่งที่ , วันที่ 8 - åttonde
    ลำดับที่ , ตำแหน่งที่ , วันที่ 9 - nionde
    ลำดับที่ , ตำแหน่งที่ , วันที่ 10 - tionde
    เป็นต้น

Första maj är en helgdag i Sveige. วันที่หนึ่ง พฤษภาคมเป็นวันหยุดในประเทศสวีเดน

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

บทที่ 1 ความรู้พื้นฐาน คำแนะนำ และการออกเสียง

ความรู้พื้นฐาน


ตัวอักษร (Alfabetet) a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z å ä ö

สระ (Vokaler) a e i o u y å ä ö

จากตัวอักษรด้านบน คัดออกจากสระแล้วตัวที่เหลือเราเรียกว่า พยัญชนะ(Konsonanter)

คลิกที่นี้ เพื่อฝึกการออกเสียง สระ และ พยัญชนะ ภาษาสวีเดน



1.1 คำแนะนำ

ภาษาสวีเดน เป็นภาษาที่มีวิธีการพูด การเขียน และหลักไวยากรณ์แตกต่างไปจากภาษาไทยมาก สำหรับผู้ที่สนใจเรียนภาษาสวีเดน และมีพื้นฐานภาษาอังกฤษมาบ้างการเรียนภาษาสวีเดนก็ไม่ยากเกินไปนัก


ในการเรียนภาษาสวีเดน ท่านควรมีพจนานุกรม(ordbok) และควรมีสมุดจดคำศัพย์(glosbok) การสนทนาภาษาสวีเดนนั้น หากท่านต้องการพูดคำง่ายกับคนสวีเดน ท่านควรรู้คำศัพย์อย่างน้อย 2,000 - 3,000 คำ แต่ถ้าต้องการอ่านหนังสือพิมพ์สวีเดนได้โดยไม่ต้องเปิดพจนานุกรม ต้องรู้คำศัทย์ 30,000 คำขึ้นไป ซึ่งสรุปได้ว่าการที่จะต้องพูด อ่าน เขียน ภาษาสวีเดนให้ได้นั้น ท่านต้องใช้เวลา และความขยันหมั่นเพียรเป็นสำคัญ


การออกเสียง

ตัวอักษรต่างๆมีการออกเสียงด้วยตัวเอง แต่มีข้อยกเว้นบางกรณี เช่น ตัวอักษร C และ Z บางครั้งออกเสียงคล้าย S บางกรณี ออกเสียงคล้าย K

เสียงบางเสียง จะเขียนด้วยพยัญชนะ 2 ตัวหรือ 3 ตัว แต่ออกเสียงเพียงเสียงเดียว เล่น sj และ skj



- ระยะการออกเสียง(längd) และการเน้นเสียง(betoning) ซึ่งแยกเป็นการออกเสียงยาว และการออกเสียงสั้น วิธีการจำแบบง่าย


ออกเสียงสั้น มีสองรูปแบบ

Kort Vokal (1 สระ+ 2 พยัญชนะที่คล้ายกัน) +två lika konsonanter เช่น dugg , bussen , rycka (C=K)

Kort Vokal (1สระ+2พยัญชนะที่แตกต่างกัน) +två olika konsonanter เช่น halsen , busken


ออกเสียงยาว

Lång Vokal (1สระ+1พยัญชนะ) +en konsonant เช่น bakar , minen

แต่ระยะการออกเสียงยังมีข้อยกเว้น(Undantag) กรณีบางคำศัพท์ 1สระ+1 พยัญชนะ จะต้องออกเสียงสั้น เช่น han , hon , kom , kam , rom , domare และ igen เป็นต้น

ฉะนั้น การเรียนภาษาสวีเดนต้องใช้หลักความเข้าใจและการจดจำไปพร้อมๆกันดังคำแนะนำข้างต้น


1.2 หลักไวยากรณ์ในภาษาสวีเดน

คำแสดงคำถาม(frågeord) เช่น var (ที่ไหน) , när(เมื่อไร), vem(ใคร) ,vad(อะไร)

คำกริยา(verb) เช่น dansar(เต้นรำ) , sjunger(ร้องเพลง) , dricker (ดื่ม) , äter(กิน ทาน รับประทาน) ,

skriver(เขียน) , läser(อ่าน) และ är(เป็น, อยู่, คือ) เป็นต้น


ตัวอย่างการสร้างประโยคคำถาม

Ursäkta, var är banken? ขอโทษครับ, ธนาคารอยู่ที่ไหนครับ?

Ursäkta หมายถึง ขอโทษ เป็นการใช้ร่วมประโยคเมื่อต้องการความช่วยเหลือแบบสุภาพ


คำแสดงคำถาม + คำกริยา + คำนาม

var = ที่ไหน är = อยู่ banken = ธนาคาร


ตัวอย่างเพิ่มเติม

Var är toaletten? ห้องน้ำอยู่ที่ไหน?

Var är sjukhuset? โรงพยาบาลอยู่ที่ไหน?

Var arbetar Kalle? คัลเละทำงานที่ไหน?

Var bor Kalle? คัลเละอาศัยอยู่ที่ไหน?


När är det? มันเป็นเวลาเมื่อไหร่?

När somnar Kalle? คัลเละตื่นนอนเมื่อไหร่?


Vem är Göran Persson? เยอรัน แพร์ซ่น เป็นใคร?

Vem sköt en björm? ใครได้ยิงหมี?


1.3 การเขียนภาษาสวีเดน
ต้องเริ่มต้นเขียนอักษรตัวใหญ่ตัวแรก และจบท้ายด้วยเครื่องหมายจุด, เครื่องหมายคำถาม หรือเครื่องหมายตกใจเสมอ
. เครื่องหมายจุด(มหัพภาค) เรียกว่า punkt
? เครื่องหมายคำถาม(ปรัศนี) เรียกว่า frågetecken
! เครื่องหมายตกใจ(อัศเจรีย์) เรยกว่า utropstecken

ตัวอย่าง
Sven sköt en björn. สเว้นได้ยิงหมี
Vem sköt en björn? ใครได้ยิงหมี?
Skjut en björn! ยิงหมี(จงยิงหมี)

อีกกรณีตัวอย่างที่ประโยคประกอบด้วย 2 ข้อความ
Lisa ärbeter och Sven sover. ลีซ่ะทำงานและเสว็นนอนหลับ
Lisa säger, att Sven sover. ลีซ่ะกล่าวว่า "สเว็นนนอหลับ"


1.4 การเปลี่ยนรูปของคำ

การเปลี่ยนรูปของคำเหล่านี้ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ ข้อบังคับ ดังตัวอย่างข้างล่าง

สังเกตุคำว่า räkna(คิดเลข,นับเลข, คำนวน) และ bil(รถยนต์)

Peter räknar. เพียเต่อร์คิดเลข räkna + r

Peter räknade. เพียเต่อร์ได้คิดเลขแล้ว räkna ตัด r + de

Peter har en bil. เพียเต่อร์มีรถยนต์ 1 คัน

Peter har två bilar. เพียเต่อร์มีรถยนต์ 2 คัน bil + ar

ในภาษาสวีเดนเรียกหลักการแบบนี้ว่า "การเปลี่ยนรูปคำหรือการผันคำ"

หลักไวยากรณ์ เรียกว่า การเปลี่ยนรูปจากสิ่งที่มีจำนวนหนึ่งหน่วย หรือ เอกพจน์ (singular) ไปเป็นส่งที่มีจำนวนหลายหน่วย หรือ พหูพจน์ (plural)












วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552